ฟ้า...ในค่ำคืนที่ไร้ดาว อ้างว้างและว่างเปล่า ไม่มีความหมาย ฉัน...ก็มีดวงใจที่ว่างเปล่า จวบจนวันที่เธอก้าวเข้ามาในชีวิต *ไม่ใช่สายน้ำแต่ฉ่ำชื่นหวาน ไม่ใช่ลำธารแต่ไหลผ่านหัวใจ ไม่ใช่ดวงดาวแต่เธอเป็นดั่งดวงหฤทัย คือความหมายที่หา...มานาน **ความรักจดลึกในความทรงจำ ลึกล้ำ ย้ำรอยสลัก นิรันดร์ นั้นนานนัก แต่รักนี้นานกว่านั้น ฟ้ากำเนิดมา ณ เมื่อไหร่ จะดับสลาย ณ เมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้ แต่ฉันมีเพียงเธอที่เฝ้ารอ ตลอดกาลไม่นานพอ ให้ดับความรัก สุทธิพงษ์ วัฒนจัง

Wednesday, March 5, 2008

พิเศษ สังข์สุวรรณ : เรือ่งเล่า : คืนหนึ่งกับผีดิบ



คืนหนึ่งกับผีดิบ






เว็บไซต์สำเร็จรูป เริ่มต้น วันละ 1 บาท

มนุษย์เราค่อนข้างแปลก เพราะเรานอนแล้วมีความฝัน ไม่รู้ว่าตัวอื่นๆมันฝันหรือเปล่า แต่ก็น่าจะมีเพราะเคยเห็นหมาที่มันนอนหลับกระตุกๆอย่างไรชอบกล แต่ก็เป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ เพราะถามมันๆก็ไม่ตอบ เพราะมันอาจฟังได้แต่พูดไม่ได้

มนุษย์เราคงฝันมาตั้งแต่เกิดทั้งๆที่ ยังไม่มีประสบการณ์อะไร.... แต่เราอาจจะมีประสบการณ์อื่นๆมาก่อนที่จะเกิด และเป็นภาพหลอนตามมาในช่วงเวลาหนึ่ง

โตขึ้นมาเราก็มีประสบการณ์อื่นๆ เพิ่มพูนไปตามอายุขัย.... และเราก็เอาไปฝันโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ.... ตื่นขึ้นมาก็จำได้บ้างจำไม่ได้บ้าง เอาไปตีเป็นหวย ถูกบ้างผิดบ้างไปตามวิสัย

ผมมักจะฝันเห็นผีบ่อยๆ.... คงเคยทำอะไรเขามามาก.... ตื่นมากลางดึกนอนไม่หลับบ้าง ช่าง....มันบ้าง ตามความรำคาญและอารมณ์

ตอนที่ผมอยู่วังนางเลิ้งซึ่งเคยเป็นที่ประทับของกรมหลวงชุมพรฯ ผมเคยฝันว่ามีผีตัวหนึ่งกำลังเข้ามา ผมหนีลงไปแอบในบ่อปลาซึ่งปลูกต้นกกไว้ด้วย!!!!!

ผีเดินมาถึง ก็มองไปรอบๆ....หาผม!!!!



ผมซุกอยู่ใต้น้ำในดงต้นกก.... ผีมองไปรอบๆ... และมองมาที่บ่อปลา!!!!!!!!

ทันทีที่ผีมองมา.... ต้นกกก็พลันแห้งเหี่ยวโรยราไปในทันที!!!!!!!!

ผมก็เลยถูกเปลือยอยู่ในบ่อปลาโดยไม่มีต้นกกกำบัง.... และผีก็มองเห็นผม!!!!!

โชคดี....ผมตื่นขึ้นมาก่อน.....เหงื่อท่วมตัว

แต่ก็ดีกว่าที่จะฝันต่อ.....

เมื่อไม่นานมานี้ก็ฝันถึงผีอีก!!!!!.....


คราวนี้เป็นผีดิบ!!!!!!

ผมนอนอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง กลางป่า..... ก็ไม่รู้ไปนอนที่นั้นทำไมเหมือนกัน ตื่นมากลางดึก เพราะได้ยินเสียงแปลกๆ จึงออกไปนอกบ้านมองดูและก็เห็นผีดิบ!!!

ผีดิบคือผีที่ดิบๆยังไม่สุก.... คือคนตายที่ยังไม่ได้เผา

สภาพมันคือคนที่ตายไปไม่นานนัก แต่เน่าเปื่อยเลอะเทอะไปหมดแล้ว....

แต่เดินได้....

และกำลังเดินมาหาผม !

พวกมันมีหลายตัวมาก....บางตัวเดินออกมาจากป่า บางตัวไต่ลงมาจากต้นไม้ บางตัวผุดขึ้นมาจากพื้นดิน และบางตัวตลกมากกว่านั้น

ผมคงช็อกตายไปแล้วถ้าไม่เป็นความฝัน!!!!




แต่ในความฝัน ผมกลับไปคว้ากีต้าร์ออกมาแล้วเริ่มร้องเพลงที่คิดขึ้นทันทีทันใด


"หักคอผมก่อน แทะมันสมองมันมัน จากนั้นหักแขนขาออกมา ฉีกเนื้อแขนขา ขม้ำกิน แหวะท้องดึงเครื่องในมา รสโอชาอย่าแย่งกันกิน เล็บฉีกทิ้งไปให้สิ้น กินไปจะติดคอ"


พวกผีดิบหยุดฟัง และตบมือแบบพวกที่ไปฟังคอนเสิร์ต.... และ ENCORE ENCORE ENCORE!!!!!!!!!!!

ผมก็ร้องไปอีกหลายครั้ง

ก็ ENCORE ทุกที....

แต่ตาผมมองไปที่ขอบฟ้า?????

แล้วผมก็เห็นสิ่งที่รอคอย.... สิ่งใหญ่ที่เริ่มจากน้อยเริ่มปรากฏมา

นั่นคือแสงทองของอุษา ที่ทอดแสงทองผ่องอำไพ

พอแดดส่องพวกผีดิบก็กระเจิดกระเจิง.... จะกลับเข้าหลุม....แต่ไม่ทัน....

แสงแดดเผาผลาญพวกมัน ยุ่ยสลายกลายเป็นจุณ

แล้วผมก็ร้องเพลงอื่น.......


เอก อี๊ เอ๊ก เอ็ก แสงทอง ส่องเมฆ ตื่นเทิดทูนหัว อย่ามัวหลับใหล ไวไวมาดู ฟ้าสีชมพู กลับกลายงามพลัน




พิเศษ สังข์สุวรรณ

010326





No comments:

เกริ่น หน่อย....

blog นี้ จัดทำโดยสมาชิกในครอบครัว จะใส่ข้อมูลแบบกระจัดกระจาย และมาเชื่อมต่อกันภายหลัง นะคะ