ฟ้า...ในค่ำคืนที่ไร้ดาว อ้างว้างและว่างเปล่า ไม่มีความหมาย ฉัน...ก็มีดวงใจที่ว่างเปล่า จวบจนวันที่เธอก้าวเข้ามาในชีวิต *ไม่ใช่สายน้ำแต่ฉ่ำชื่นหวาน ไม่ใช่ลำธารแต่ไหลผ่านหัวใจ ไม่ใช่ดวงดาวแต่เธอเป็นดั่งดวงหฤทัย คือความหมายที่หา...มานาน **ความรักจดลึกในความทรงจำ ลึกล้ำ ย้ำรอยสลัก นิรันดร์ นั้นนานนัก แต่รักนี้นานกว่านั้น ฟ้ากำเนิดมา ณ เมื่อไหร่ จะดับสลาย ณ เมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้ แต่ฉันมีเพียงเธอที่เฝ้ารอ ตลอดกาลไม่นานพอ ให้ดับความรัก สุทธิพงษ์ วัฒนจัง

Friday, February 29, 2008

พิเศษ สังข์สุวรรณ : เรื่องเล่า : เงาสามแสง : 5


เงาสามแสง 1
เงาสามแสง 2
เงาสามแสง 3
เงาสามแสง 4

5

ด้วยอานุภาพแห่งความรัก คืนนั้น คุณพี่เธอ ก็ลากผมกับไอ้อู๊ดไปที่บ้านจนได้ โดยอ้างว่าต้องไปอ่านบทประพันธ์หนังเรื่องนั้นที่บ้าน เอาออกมาไม่ได้ ............ เป็นความลับ

ระหว่างทางได้ยินแต่เสียงออดอ้อน .....พี่อู๊ดฮะ ทานไอ้นี่มั้ย ...... พี่อู๊ดฮะ ทานไอ้นั่นมั้ย .......... พี่อู๊ดฮะ ร้านนี้ก็อร่อยนะฮะ ..... พี่อู๊ดฮะ ชอบผลไม้อะไร

ไอ้อู๊ดมันเลยตอบว่า ทุเรียน ........... รถจอดตลาดยอด บางลำพู ทันที

คืนนั้น ก็กินทุเรียนกันจนหนามขึ้นหน้า

ผมจะไม่เล่าถึงเรื่องของเขาสองคนนี่มากไปกว่านี้ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว .......... เอาเป็นว่า ผมเขียนบทให้ คุณพี่เธอ จนเสร็จ และไอ้อู๊ดก็ปลอดภัยดีก็แล้วกัน

เรียนจบ ผมก็ไปรับราชการทหารอยู่ต่างจังหวัดพักหนึ่ง แล้วก็กลับมากรุงเทพ ฯ รับ job เป็นคนแปลข่าวต่างประเทศบ้าง ทำงานโฆษณาบ้าง .........

จะว่าไปแล้ว อาชีพตรง ๆ ของผมคือการเขียนเพลง

ผมเขียนเพลงตั้งแต่อยู่มัธยม .......... เพลงเชียร์กีฬา

พอเข้ามหาวิทยาลัย ก็เขียนเพลงคณะ

แต่ที่ถนัดที่สุด คือเขียนเพลงจีบสาว

พอจบมา สันดานเดิมมันก็ไม่หาย

วันหนึ่ง ไปส่งเพื่อนขึ้นรถทัวร์ไปต่างจังหวัด ที่ท่ารถแถว ๆ สะพานหัวช้าง

ก็ไปนั่งคอฟฟี่ช็อป กินเหล้ารอเวลารถออก

กินไปกินมาก็ดันไปเห็นภาพสวย ๆ เข้า

แคชเชียร์สาว นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ มีไฟโคมอยู่ข้างหน้า เธออยู่ครึ่งหนึ่ง ระหว่างแสงโคมและความมืดข้างหลัง

เธอสวยบาดใจจนเลือดผมไหลเต็มอก

จากนั้นมา ผมก็ไปส่งเพื่อนไปต่างจังหวัดทุกคืน

ทั้งเพื่อนที่มีตัวตนและ ไม่มี

ในที่สุด สันดานเดิมก็ออกฤทธิ์

ผมก็เขียนเพลงให้เธอ

หนึ่งในสี่เพลง ชื่อ

ฝืนไหวหรือ

จับใจความดูก็แล้วกัน

เห็นเธอเพียงแต่ในความฝัน .......... ไม่หรอก เห็นด้วยตาเนื้อ ๆ นี่แหละ

เห็นเธอหรี่ตาให้ฉัน ...................... เธอคงเพ่งดูบิลมากกว่า

เห็นรอยยิ้มของเธอเพื่อฉัน ............. เธอไม่เคยมองผมเลย

เห็นแต่ในความฝันละเมอ ............... ใช่

มิกล้าจะสบประสานสายตา ............. เธอไม่มอง จะสบตาได้ยังไง

มิกล้าจะเอ่ยวาจากับเธอ ................ ก็โต๊ะมันอยู่ไกลนี่หว่า

กลัวหัวใจจะพร่ำเพ้อ ..................... ไม่ต้องกลัวหรอก เป็นบ้าไปแล้ว

โอ้เธอ จะทำให้ฉันตาย ........... ตายแน่ เธอมีแฟนตัวเท่าไดโนเสาร์

แอบมองหน้าเธอด้วยหางชายตา...

...... มองตรง ๆ ได้ไง ไดโนเสาร์มันนั่งประกบอยู่

เธอหันกลับมาความกล้าก็หายไป...... ที่หันกลับมาคือไดโนเสาร์

แสนใกล้เหมือนใจเราอยู่เคียงกัน...... ก็แค่สองสามโต๊ะคั่น

แสนไกลเหมือนใครมาขวางกั้น ....... ไดโนเสาร์ไง

แข็งใจพอที่ฉันจะบอกเธอนั้น ........... ความจริงไม่ได้บอก

ฉันฝืนใจจะไม่รักเธอ ...................... ตอแหล

แล้วผมก็ไปบันทึกเสียงที่ห้องศรีกรุง ซอยอโศก อัดแผ่นเสียงครั่ง โหลหนึ่ง แล้วแข็งใจเอาไปให้เธอแผ่นหนึ่ง แล้วไม่ไปอีกเลย เพราะเจ้าไดโนเสาร์มันมองผมเหมือนแฮมเบอร์เกอร์

***********

No comments:

เกริ่น หน่อย....

blog นี้ จัดทำโดยสมาชิกในครอบครัว จะใส่ข้อมูลแบบกระจัดกระจาย และมาเชื่อมต่อกันภายหลัง นะคะ